วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557





กิจกรรมแป้งโดว์



แป้งโดว์ช่วยพัฒนาทักษะท้ง 2 ด้าน คือ ด้านกายภาพ เช่น กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งในส่วนนี้ เด็กยุคใหม่จะเริ่มมีปัญหากันมาก เพราะเล่นแต่เกมคอมพิวเตอร์ และคลิกเมาส์อย่างเดียว ส่งผลให้จับปากกาไม่ได้ เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง ส่วนด้านที่ 2 คือเรื่องของ อารมณ์ งานปั้นแป้งโดว์จะช่วยฝึกสมาธิ ทำให้เด็กซน สามารถนั่ง และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังจะช่วยในเรื่องของมิติสัมพันธ์ ทำให้เด็ก สามารถมองภาพที่เป็น 3 มิติ ได้ดีขึ้น


                  แป้งโดว์คืออะไร   

แป้งโดว์ คือแป้งปั้นที่ให้เด็กเล่นแทนดินน้ำมัน ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านร่างกาย โดยฝึกให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้แก่ มือและนิ้วมือ นวด คลึง และปั้นแป้งโดว์เป็นรูปต่างๆ ตามความต้องการ พัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคม โดยเด็กได้เล่นแป้งโดว์ด้วยความสนุกสนาน เพลิดเพลิน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองสามารถเล่นร่วมกับบุตรหลานของท่านได้ โดยเด็กจะได้พัฒนาจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในการปั้นแป้งโดว์เป็นรูปร่างต่างๆ รวมถึงฝึกสมาธิมิติสัมพันธ์ทั้ง EQ และ IQ นอกจากนี้ แป้งโดว์ยังเล่นง่าย จัดเก็บสะดวก เพียงนวดให้เป็นก้อนเดียวกัน และเก็บใส่กล่องให้มิดชิด อีกทั้งไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก เนื่องจากส่วนผสมที่ใช้ทำแป้งโดว์ไม่มีสารพิษ ปราศจากสารกันบูดใดๆ ส่วนประกอบทั้งหมดมาจากส่วนผสมที่ใช้ทำขนม 100% และใช้สีผสมอาหารในการทำ แถมมีกลิ่นหอม เสริมสร้างทักษะเด็กในด้านประสาทสัมผัสอีกด้วย
ข้อดีของแป้งโดว์

ข้อดีของแป้งโดว์ คือมีความเหนียวและความอ่อนตัวกว่าดินน้ำมัน ทำให้สามารถตัดแบ่งและปั้นรูปทรงได้พลิกแพลงกว่า อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นของดินน้ำมันและน้ำมันเปื้อนติดมือ การปั้นแป้งโดว์ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อของเด็กให้แข็งแรงขึ้น เพื่อฝึกเป็นทักษะให้เด็กสามารถหยิบจับดินสอขีดเขียนได้อย่างมั่นคง เตรียมพร้อมสู่วัยอ่านเขียนเรียนหนังสือต่อไป กลิ่นและสีผสมอาหารที่ใช้ทำแป้งโดว์ควรเลือกที่มี อย. รับรอง เมื่อส่วนผสมทุกอย่างปลอดภัยไม่มีสารเคมีเจือปน เด็กทานได้แต่เค็มมาก อย่างไรก็ตามเวลาเด็กเล่นผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด และสอนเด็กว่าเป็นของเล่น อย่ากิน เด็กๆ เห็นสีสดใสมักจะชอบเอาเข้าปาก

ประโยชน์ของการเล่นแป้งโดว์

พัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดเล็ก มือและนิ้วมือ ในการนวด นวด คลึง และปั้นแป้งโดว์
พัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ แขนหยิบจับ ยกแป้งโดว์เล่น
พัฒนาประสาทสัมพันธ์ สอดคล้องระหว่างตากับมือ ระหว่างที่ปั้นแป้งโดว์
พัฒนาทักษะทางด้านภาษาในการอธิบายผลงานของตนเอง
พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
ฝึกสมาธิทำให้เด็กจดจ่อกับงานที่ทำได้นานมากขึ้น
ผ่อนคลายอารมณ์เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินขณะทำกิจกรรม
เสริมสร้างความภูมิใจในตัวเอง พึงพอใจในผลงานของตน
พัฒนาการทางด้านสังคม โดยเด็กสามารถเล่นแป้งโดว์ร่วมกับเพื่อน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง และญาติผู้ใหญ่ได้
ฝึกนิสัยการเก็บของเล่นให้เป็นที่ การรักษาของ เพราะหลังจากเล่นเสร็จแล้วต้องเก็บแป้งโดว์ให้มิดชิด และดูแลแป้งโดว์ให้มีอายุนานขึ้นเพื่อที่จะนำมาเล่นได้อีกในครั้งต่อไป
แป้งโดว์สูตรที่มีกลิ่นหอม ฝึกทักษะการเรียนรู้ ผ่านประสาทสัมผัสทางการดมกลิ่นได้เป็นอย่างดี



พัฒนาการเด็กในการเล่นแป้งโดว์

1-2 ปี : หยิบ ขยำ กด ทุบแป้งโดว์ให้แผ่ออก มีลักษณะการใช้มือแบบกำทั้ง 5 นิ้ว
2-3 ปี : ดึงแป้งโดว์ออกจากกันเป็นก้อนๆ มีลักษณะการกำหรือใช้นิ้ว และตัดแป้งโดว์ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ได้
3-4 ปี : ปั้นแป้งโดว์และคลึงเป็นเส้นยาว คลึงเป็นลูกบอล และกดเป็นแผ่นแบนกลมด้วยฝ่ามือ
4-5 ปี : ปั้นแป้งโดว์เป็นรูปร่าง ที่เด็กอาจจะเข้าใจความหมายได้คนเดียว
5 ปีขึ้นไป : ปั้นแป้งโดว์เป็นรูปร่างที่มีรายละเอียด ผู้อื่นเข้าใจความได้ มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ช่วยในการปั้น


ส่วนผสมและอุปกรณ์

แป้งโดว์มาจากส่วนผสมที่ทำขนม 100% ส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีดังนี้
           1. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
           2. เกลือป่น 1 ถ้วยตวง
           3. น้ำร้อน 1 ถ้วยตวง
           4. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนโต๊ะ
           5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
           6. สีผสมอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ
           7. กลิ่นผสมอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ
           8. ภาชนะผสมแป้ง
           9. กะทะเทฟลอน
           10. พายสำหรับกวนแป้ง
           11. ถาดสำหรับนวดแป้ง
           12. กระปุกหรือถุงซิปล็อกสำหรับเก็บแป้งโดว์



วีธีทำ

1. นำส่วนผสมทั้งหมดผสมลงในภาชนะผสม คนให้เข้ากัน (สูตรนี้ใช้ ผสม 1 สี)
2. เมื่อส่วนผสมเนียนดีให้เทใส่กะทะเทฟลอน (แป้งจะไม่ติดกระทะ) ตั้งไฟอ่อนๆ กวนแป้งตลอดเวลา (การขึ้นตั้งไฟทำให้สุกด้วย จะชวยยืดอายุให้แป้งโดว์เล่นได้นานขึ้น) เมื่อแป้งจับตัวเป็นก้อน ใช้ไม้พายบี้แป้งให้แบออก แล้วกลับข้างเรื่อยๆ (สังเกตุดูแป้งจะดูเหลืองดีแล้ว ยกลง พักแป้งไว้)
3. พอแป้งเริ่มเย็น จึงนวดให้เข้ากัน สามารถนำไปให้เด็กๆ เล่นพร้อมอุปกรณ์เล่นแป้งโดว์ได้ตามต้องการ


วิธีเก็บรักษา

หลังจากที่เด็กเล่นแป้งโดว์เสร็จแล้วควรเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิทเสมอ ควรเก็บแป้งโดว์เก็บไว้ใน กระปุก หรือถุงซิปล็อค แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ก่อนเอามาเล่นควรผึ่งรอสักนิดให้หายเย็นหน่อยแล้วสามารถเล่นได้เลย หรือถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่ให้ควรให้อากาศเข้า ระวังแป้งโดว์ไม่ให้โดนลม โดนแดด และความร้อนสูง ก็จะสามารถยืดอายุของแป้งขึ้นไปอีก ถ้าเริ่มมองเห็นผงเกลือเป็นจุดๆ ไม่ต้องตกใจ เป็นเพราะแป้งเริ่มแห้ง แค่หยอดน้ำต้มสุกใส่ลงไปนิดหน่อยประมาณ 2 ช้อนชา แล้วนวดให้เข้ากันก็ใช้ได้เหมือนเดิมแล้ว แป้งโดว์มีอายุการใช้งานสั้น-ยาวขึ้นอยู่กับอากาศและการเก็บรักษา เพราะแป้งโดว์ทำมาจากส่วนผสมที่ใช้ทำขนมและไม่ได้ใส่สารกันบูดค่ะ เพื่อสุขอนามัยที่ดีควรฝึกนิสัยให้เด็กล้างมือก่อนและหลังการเล่นแป้งโดว์



แป้งโดว์มีอายุนานเท่าไหร่


อายุการใช้งานของแป้งจริงๆ อยู่ที่การเก็บรักษา หากเด็กเอาออกมาเล่นแล้วเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท และแช่ตู้เย็นทุกครั้ง จะมีอายุใช้งานได้นานถึง 1-2 เดือน ก่อนจะนำแป้งโดว์มาให้ลูกเล่นทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตซักนิดนะคะว่าแป้งเกินไปหรือแฉะเกินไปหรือเปล่า หากทิ้งไว้แล้วแป้งแข็งให้หยอดน้ำต้มสุกใส่ลงไปนิดหน่อยแล้วนวดให้เข้ากัน หากแป้งฉอะติดมือเกินไปให้วางผึ่งลมซักพักค่อยนำมาปั้นใหม่ ทั้งนี้ควรเปลี่ยนแป้งโดว์ให้เด็กทุกเดือน เพราะแป้งโดว์ก็เหมือนอาหารที่ไม่ได้ใส่สารกันบูด และแป้งโดว์ที่ผ่านการเล่นแล้วเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่างๆ และถ้ามีเพื่อนมาเล่นด้วยกันหลายคนก็ควรเปลี่ยนแป้งโดว์ให้เด็กเร็วขึ้น



 กิจกรรมการทำแป้งโดว์

 ชื่อผลงาน  :  หมู่บ้านเวทมนต์



1.สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ ?
ได้รู้ขั้นตอนการทำแป้งโดว์ที่ถูกต้องและปลอดภัย และแป้งโดว์สามารถใช้แทนดินน้ำมันได้และยังปลอดภัยกว่าดินน้ำมันอีก ได้ความสามัคคีในการนวดแป้งให้เนียนและสามารถนำมาปั้นเป็นรูปต่างๆตามที่เราต้องการได้ และกิจกรรมการทำแป้งโดว์ช่วยให้พัฒนาทักษะด้านกายภาพ คือ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก นิ้วมือ ข้อมือ และกล้ามเนื้อมัดใหญ่  แขนในการหยิบจับแป้งโดว์เล่น และการใช้ประสาทสัมพันธ์ สอดคล้องระหว่างตากับมือ ในการเล่นแป้งโดว์ และการใช้ภาษาสื่อสารกับเพื่อนหรืออธิบายผลงานที่ตนเองทำ   การแบ่งปันของเล่นกับเพื่อน  การฝึกสมาธิให้เด็กสนใจกับงานที่ทำได้นานมากขึ้น  ช่วยให้เด็กผ่อนคลายอารมณ์เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินในขณะทำกิจกรรม

2.จากกิจกรรมส่งเสริมในเรื่องใดบ้าง ?
 ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
            ด้านอารมณ์ คือ  เด็กมีความสนุกสนาน และเพลิดเพลินในการปั้นแป้งโดว์ และยังช่วยให้เด็กผ่อนคลายอารมณ์ ไม่เครียด เด็กมีความสุขในขณะทำกิจกรรมกับเพื่อนในกลุ่ม และสร้างความภูมิใจในตนเอง พึงพอใจกับผลงานที่ตนเองทำ เด็กมีความมั่นใจ
            ด้านสังคม คือ  เด็กมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนในกลุ่ม และผู้อื่น  รู้จักการให้ การแบ่งปันสิ่งของให้กับผู้อื่น ในขณะปั้นแป้งโดว์เด็กจะสามารถแบ่งกันเล่น และเล่นด้วยกันได้
            ด้านร่างกาย  คือ  ช่วยพัฒนาทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก นิ้วมือ ในการคลึง นวด ปั้น แป้งโดว์ และพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่  แขนในการหยิบจับแป้งโดว์ในขณะปั้นแป้งโดว์ เป็นรูปต่างๆตามจินตนาการที่เด็กต้องการ  และกิจกรรมการเล่นแป็งโดว์ยังช่วยฝึกและพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรง เพื่อช่วยให้เด็กเขียนหนังสือได้เร็วขึ้นตามพัฒนาการ เด็กสามารถใช้มือหยิบจับดินสอ ขีด เขียนได้ ละหยิบจับสิ่งของต่างๆได้ดีขึ้นด้วย
            ด้านสติปัญญา  คือ  การปั้นแป้งโดว์ช่วยฝึกสมาธิให้เด็กจดจ่อกับกับสิ่งที่ตนเองปั้นได้นานมากขึ้น และกิจกรรมนี้ยังช่วยฝึกให้เด็กซนมีสมาธิที่นานมากขึ้น และ พัฒนาประสาทสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ ในขณะเล่นแป้งโดว์  และยังช่วยให้เด็กใช้สมองในการสร้างสรรค์ จินตนาการในการปั้นแป้งโดว์ และฝึกสมองให้มีการพัฒนาการในการจินตนาการในการคิดสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ

3.จากกิจกรรมบูรณาการในรายวิชาอะไรบ้างและได้อย่างไร ?
วิชาที่สามารถนำมาบูรณาการได้คือ วิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ ศิลปะ
วิชาคณิตศาสตร์ คือ การตวงและวัด ส่วนผสมในการทำแป้งโดว์   วิชาวิทยาศาสตร์ คือ การผสมส่วนผสมให้ได้ในปริมาณที่พอดี และสามารถทำให้แป้งโดว์ปั้นเป็นรูปได้ ไม่เหนียวและไม่เหลวจนเกินไป และการผสมสี การทดลองการนวดแป้งโดว์ให้เข้ากันและเนียน และวิชาศิลปะ  คือ  การใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการปั้น เล่น แป้งโดว์ ให้เป็นรูปต่างๆที่ตนเองสนใจหรือตามจินตนาการ

 
                                                                             
                                                   นางสาว นูร์   มาหะมะ  
                                                   รหัส 5650210409
                                                   เลขที่  20     ห้อง 3EC/56





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น